วันนี้เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล เครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น Big Data, Robotics Process Automation (RPA), Blockchain, Data Analytics, Machine Learning รวมไปถึง Artificial Intelligence (AI) ถูกพูดถึงในวงกว้าง กระทั่งหลายท่านอาจกังวลว่าหลายอาชีพรวมถึงอาชีพนักบัญชีของเราจะถูกหุ่นยนต์เข้ามาแทนที่ และสงสัยว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้บทบาทของนักบัญชีเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด คำกล่าวที่ว่า “เรียนบัญชีไม่ตกงานแน่นอน” จะยังคงจริงอยู่หรือไม่ และเราต้องเตรียมพร้อมรับคลื่นการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่นี้อย่างไร
ในมุมมองของนักบัญชีบริหาร บทบาทของนักบัญชีก็ยังคงมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าให้ธุรกิจ เทคโนโลยีใหม่ ๆ จะเข้ามามีส่วนช่วยให้นักบัญชีสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะนอกจากนักบัญชีจะสามารถลดเวลาทำงานแบบซ้ำ ๆ ในส่วนที่หุ่นยนต์ทำได้แล้ว ยังสามารถนำเสนอข้อมูลได้รวดเร็วและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้ผู้บริหารตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย จึงอาจกล่าวได้ว่า นักบัญชียุคดิจิทัลสามารถนำเอาเทคโนโลยีมาใช้เป็นข้อได้เปรียบเพื่อให้ตนเองสามารถเป็น Business Partner หรือคู่คิดธุรกิจได้อย่างเต็มตัว
นักบัญชีกับบทบาท Business Partner หรือคู่คิดธุรกิจ
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันหน้าที่ของนักบัญชีบริหารคือ จัดเตรียม วิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเพื่อใช้ในการตัดสินใจของผู้บริหาร หากได้ลองพิจารณาดูแล้วเรามักพบว่าเราใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการจัดเตรียมข้อมูล และรายงานต่าง ๆ และเน้นการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานในอดีต (Backward-Looking) แต่สำหรับการเป็นคู่คิดธุรกิจในยุคดิจิทัลนั้น บทบาทของนักบัญชีจะเริ่มต้นหลังจากที่รายงานและการวิเคราะห์แบบมาตรฐานได้ถูกสร้างออกมาแล้วโดยระบบอัตโนมัติ และจะเน้นการวิเคราะห์และหา Business Insight แบบมองไปข้างหน้า (Forward-Looking) รวมทั้งตั้งคำถามและวิเคราะห์ด้วยวิธีการที่หลากหลายเพื่อให้ได้มุมมองที่แตกต่าง โดยนักบัญชีจะต้องทำงานควบคู่ไปกับ Business Function อื่น ๆ เพื่อตอบโจทย์และขับเคลื่อนธุรกิจให้มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นนั่นเอง
Association of International Certified Professional Accountants ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับแนวโน้ม 3 ประการของการเป็น Business Partner ของหน่วยงานบัญชีและการเงินไว้ดังนี้ค่ะ
Efficiency ระบบที่เป็นมาตรฐานและอัตโนมัติ จะส่งผลให้กระบวนการบัญชีมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้นักบัญชีมีเวลา (Capacity) ในการทำงานสนับสนุนธุรกิจในบทบาทที่กว้างกว่าที่ผ่านมา |
Information ผู้บริหารต้องการข้อมูลที่สามารถช่วย ในการตัดสินใจได้ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อเพิ่มผลกำไรในภาวะที่ตลาดเติบโตช้า นักบัญชีจึงจำเป็นต้องใช้ความสามารถ ของเทคโนโลยี เช่น Cloud, Business Intelligence (BI), Big Data และ Analytics เพื่อช่วยให้ได้ผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่ดียิ่งขึ้น |
Influence นักบัญชีถูกคาดหวังให้มีบทบาท ที่สำคัญมากขึ้นในการช่วยธุรกิจ ตัดสินใจและบริหารผลการดำเนินงาน ทั้งนี้เพื่อช่วยให้ธุรกิจอยู่รอด และประสบความสำเร็จในโลก VUCA |
จะเห็นได้ว่าผลกระทบของแนวโน้มทั้งสามประการก็คือ นักบัญชีบริหารจะมีบทบาทที่กว้างขึ้นในการช่วยเรื่องการตัดสินใจของธุรกิจนั่นเองค่ะ
ทักษะของนักบัญชีบริหารในยุคดิจิทัล
นักบัญชีต้องสามารถหาวิธีการใหม่ ๆ ในการจัดการ วิเคราะห์และดึงเอาคุณค่าที่ซ่อนอยู่ในข้อมูลออกมาให้ได้ สามารถใช้ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์เพื่อหาประเด็นของธุรกิจที่น่าสนใจ และสามารถตั้งคำถามได้ถูกต้องซึ่งจะนำไปสู่การหาคำตอบและทางออกที่ตอบโจทย์ของธุรกิจ
แน่นอนว่าเมื่อนักบัญชีถูกคาดหวังให้รับบทบาทที่กว้างขึ้น นักบัญชีก็จำเป็นต้องพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ ด้วย เช่น
นักบัญชีสามารถเตรียมตัวอย่างไรได้บ้าง
ผู้เขียนขอนำบางส่วนของแนวทางการเตรียมตัวเป็นนักบัญชียุคดิจิทัลที่ Institute of Management Accountants ได้เสนอแนะไว้มาฝากท่านผู้อ่านดังนี้ค่ะ
โดย..นางวัทธยา พรพิพัฒน์กุล |