• หน้าแรก

  • ข่าวสารสภาวิชาชีพบัญชี

  • กรมพัฒนาธุรกิจการค้าผนึกกำลังสภาวิชาชีพบัญชี นำเทคโนโลยีป้องกันการปลอมแปลงลายมือชื่อผู้สอบบัญชีรับอนุญาตในการส่งงบการเงิน

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าผนึกกำลังสภาวิชาชีพบัญชี นำเทคโนโลยีป้องกันการปลอมแปลงลายมือชื่อผู้สอบบัญชีรับอนุญาตในการส่งงบการเงิน

  • หน้าแรก

  • ข่าวสารสภาวิชาชีพบัญชี

  • กรมพัฒนาธุรกิจการค้าผนึกกำลังสภาวิชาชีพบัญชี นำเทคโนโลยีป้องกันการปลอมแปลงลายมือชื่อผู้สอบบัญชีรับอนุญาตในการส่งงบการเงิน

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าผนึกกำลังสภาวิชาชีพบัญชี นำเทคโนโลยีป้องกันการปลอมแปลงลายมือชื่อผู้สอบบัญชีรับอนุญาตในการส่งงบการเงิน

           
            กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จับมือ สภาวิชาชีพบัญชี นำเทคโนโลยีมาปรับปรุงการเชื่อมโยงข้อมูลผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เพื่อใช้ในการนำส่งงบการเงินของธุรกิจผ่านระบบ DBD e-Filling ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและอำนวยความสะดวกให้ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่ใช้ระบบงานบริการผู้สอบบัญชีรับอนุญาตของสภาวิชาชีพบัญชี รวมทั้ง ป้องกันการปลอมแปลงลายมือชื่อผู้สอบบัญชีรับอนุญาตในการนำส่งงบการเงิน และแอบอ้างใช้ชื่อผู้สอบบัญชีรับอนุญาตในการดำเนินการต่าง ๆ กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ดังนั้น ผู้สอบบัญชีฯ หมั่นตรวจเช็ครายชื่อนิติบุคคลที่ลงลายมือชื่อในงบการเงินว่าเป็นรายที่ได้ตรวจสอบบัญชีจริงหรือไม่


            เปิดเผยว่า “ปัจจุบันมีนิติบุคคลที่นำส่งงบการเงินผ่านระบบ DBD e-Filing ของกรมฯ เกือบครบ 100% แล้ว โดยกรมฯ ได้เผยแพร่ข้อมูลงบการเงินผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น Data Warehouse++, Application: DBD e-Service และ www.dbd.go.th ได้อย่างรวดเร็ว นักลงทุนสามารถนำข้อมูลงบการเงินที่ได้ไปทำการวิเคราะห์ผลประกอบการของนิติบุคคลก่อนร่วมตัดสินใจลงทุน งบการเงินจึงเป็นเครื่องมือสำคัญต่อนักลงทุนเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ งบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาตจะช่วยให้งบการเงิน มีความน่าเชื่อถือและเป็นประโยชน์กับผู้นำงบการเงินไปใช้ โดยกฎหมายกำหนดให้นิติบุคคลต้องจัดทำและนำส่งงบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาตต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าภายในระยะเวลาที่กำหนด (ยกเว้นห้างหุ้นส่วนขนาดเล็กที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท สินทรัพย์รวมไม่เกิน 30 ล้านบาท และรายได้รวมไม่เกิน 30 ล้านบาท)
            กรมฯ และ สภาวิชาชีพบัญชี ได้เชื่อมโยงข้อมูลผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่ได้แจ้งรายชื่อนิติบุคคลที่จะลงลายมือชื่อไว้กับสภาวิชาชีพบัญชีผ่านทาง Web Service เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการตรวจสอบเบื้องต้นว่า งบการเงินที่นิติบุคคลยื่นผ่านระบบ DBD e-Filing ได้รับการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่ได้แจ้งไว้หรือไม่ โดยการยื่นงบการเงินนั้นกำหนดให้นิติบุคคลกรอกข้อมูลผู้สอบบัญชีรับอนุญาตในแบบนำส่งงบการเงิน (แบบ ส.บช.3) พร้อมแนบรายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ที่ลงลายมือชื่อและระบุวันที่แสดงความเห็นในงบการเงิน ประกอบการยื่นงบการเงินประจำปีด้วยหากไม่พบข้อมูลที่ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแจ้งรายชื่อนิติบุคคลที่ตรวจสอบไว้กับสภาวิชาชีพบัญชี ระบบ DBD e-Filing จะแจ้งเตือนนิติบุคคลทันทีและจะถือว่างบการเงินนั้นอาจไม่ได้รับการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาตตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่มีชื่อในฐานข้อมูลการรับงบการเงินที่ลงลายมือชื่อแสดงความเห็นระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 31 กรกฎาคม 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 440,466 ราย และไม่พบข้อมูลการแจ้งรายชื่อนิติบุคคลที่จะลงลายมือชื่อจำนวนทั้งสิ้น 10,048 ราย ซึ่งกลุ่มนี้จะติดตามต่อไป”


            กล่าวว่า “สภาวิชาชีพบัญชีได้รับข้อร้องเรียนจากสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี ซึ่งเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่เดือดร้อนถูกปลอมแปลงการลงลายมือชื่อ ดังนั้น ในฐานะนายกสภาวิชาชีพบัญชีจึงใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือสมาชิกและป้องกันการปลอมแปลงการลงลายมือชื่อเนื่องจากการปลอมแปลงการลงลายมือชื่อเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และผิดจรรยาบรรณสภาวิชาชีพบัญชีได้นำข้อมูลและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าโดยสภาวิชาชีพบัญชีอยู่ระหว่างพัฒนาระบบงานให้สมาชิกเข้ามาตรวจสอบข้อมูลการแจ้งการลงลายมือชื่องบการเงินที่ไม่ตรงกับงบการเงินที่ยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1 ปี 2565 เพื่อให้ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตได้เข้ามาตรวจสอบผ่านระบบ ซึ่งหากพบข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงจะได้แก้ไขติดตามได้อย่างรวดเร็ว และหากพบเหตุการณ์ปลอมแปลงลายมือชื่อ ผู้เสียหายสามารถเริ่มดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ประพฤติมิชอบได้ทันที”
            “การแอบอ้างใช้ชื่อผู้สอบบัญชี หรือการปลอมลายมือชื่อ เพื่อลงนามในรายงานของผู้สอบบัญชีมีความผิดทางกฎหมาย ทั้ง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสภาวิชาชีพบัญชี จะนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อลดระยะเวลาในการตรวจสอบข้อมูลและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อวิชาชีพบัญชีและต่อธุรกิจ ดังนั้น จึงขอความร่วมมือภาคธุรกิจตรวจสอบข้อมูลที่กรอกในแบบ ส.บช.3 ข้อมูลงบการเงิน หมายเหตุประกอบงบการเงินและรายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่แนบด้วยทุกครั้ง และภายหลังจากยื่นงบการเงินแล้ว นิติบุคคลสามารถตรวจสอบผลการยื่นผ่านเมนู ‘ประวัติการนำส่งและ พิมพ์แบบ/เอกสาร’ โดยสามารถเรียกดูเอกสารที่ยื่น ตลอดจนพิมพ์แบบนำส่งไว้เป็นหลักฐาน” อธิบดีฯ และนายกสภาฯ กล่าวทิ้งท้ายร่วมกัน

อ่านในรูปแบบ PDF Click 


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองกำกับบัญชีธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
โทรศัพท์ 0 2547 4407 กองข้อมูลธุรกิจ (DBD e-Filing) โทรศัพท์ 0 2547 4385, 0 2547 4390-1
และสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ โทรศัพท์ 0 2685 2500 ต่อ 2553, 2563 และ 2598

ที่มา : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์

โพสต์เมื่อ :
15 ก.พ. 2565 9:09:09
 3928
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์