สภาวิชาชีพบัญชี ร่วมกับ กรมการปกครอง ลงนามบันทึกขอตกลงความร่วมมือว่าด้วยการ “ใช้ประโยชน์ข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎรจากฐานข้อมูลทะเบียนกลางด้วยระบบคอมพิวเตอร์โดยวิธี ONLINE และการขอใช้โปรแกรมสำหรับอ่านข้อมูลจากบัตรประจำตัวประชาชน” เพื่อเป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีในการติดต่อขอรับบริการจากสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล นายกสภาวิชาชีพบัญชี เปิดเผยว่า “การลงนามในบันทึกข้อตกลงการใช้ประโยชน์ข้อมูลทะเบียนราษฎรด้วยระบบคอมพิวเตอร์โดยวิธี ONLINE และการขอใช้โปรแกรมสำหรับอ่านข้อมูลจากบัตรประจำตัวประชาชนฉบับนี้เป็นโครงการให้บริการประชาชนแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งตอบสนองต่อนโยบายของรัฐในการบูรณาการข้อมูล มุ่งสู่การเป็นรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) และขานรับนโยบาย Thailand 4.0 การนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการนั้น จะช่วยทำให้การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชน ในการยืนยันตัวบุคคลของผู้สมัครสมาชิกของสภาวิชาชีพบัญชีเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว มีความถูกต้องสมบูรณ์และเป็นปัจจุบันที่สุด อีกทั้งยังลดความซ้ำซ้อนในการจัดเก็บข้อมูลและเอกสารต่าง ๆ ส่งผลให้ประชาชนผู้ที่ประสงค์สมัครเป็นสมาชิกสภาฯ และยื่นคำขอรับใบอนุญาตต่อสภาฯ ได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งเหมาะสมกับสถานการณ์ของโลกธุรกิจในปัจจุบันที่ต้องการข้อมูล อย่างรวดเร็ว และสามารถนำไปใช้งานได้อย่างทันท่วงที โดยสภาวิชาชีพบัญชีจะดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลอย่างมีมาตรฐานและคำนึงถึงการรักษาความปลอดภัยข้อมูลสมาชิกและผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีมากที่สุด และบันทึกข้อตกลงนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาวิชาชีพบัญชีไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างเต็มภาคภูมิ
ปัจจุบันสภาวิชาชีพบัญชีมีสมาชิกประมาณ 81,000 คน สามารถผลิตผู้สอบบัญชีรับอนุญาตได้มากกว่า 9,000 คน และมีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีเหล่านี้ล้วนเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยเพิ่มศักยภาพและผลักดันเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตไปข้างหน้าอย่างมั่นคง อีกทั้ง ยังมีส่วนช่วยทำให้รายงานทางการเงินเป็นไปอย่างถูกต้องมีมาตรฐานตามหลักการบัญชี มีความโปร่งใส สร้างความน่าเชื่อถือ และเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจที่สภาวิชาชีพบัญชีที่ได้วางไว้
ผลจากการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ ในระยะแรกสมาชิกสภาฯและผู้ขอรับบริการสามารถเข้ารับบริการโดยไม่ต้องใช้สำเนาบัตรประชาชน โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นไป หากมีความคืบหน้าอย่างไรสภาวิชาชีพบัญชีจะแจ้งให้ทราบต่อไป