ต้นทุนการกู้ยืม :
ผมรบกวนขอหารือเกี่ยวกับ มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 23 เรื่องต้นทุนการกู้ยืม
6 ต้นทุนการกู้ยืม อาจรวมถึง
6.1-6.4
6.5 ผลต่างจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดจากการกู้ยืมเงินตราต่างประเทศส่วนที่นำมาปรับปรุงกับต้นทุนของดอกเบี้ย
ข้อหารือ :
บริษัท (ลูกค้า) ได้ทำการกู้ยืมเงินระยะยาวจากบริษัทในต่างประเทศ เพื่อทำการก่อสร้างอาคาร และได้มีผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้บริษัทมีผลกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินกู้ยืมดังกล่าวอย่างมีสาระสำคัญ
จากมาตรฐานการบัญชี ที่ว่า “6.5 ผลต่างจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดจากการกู้ยืมเงินตราต่างประเทศส่วนที่นำมาปรับปรุงกับต้นทุนของดอกเบี้ย”
บริษัทสามารถรับรู้กำไร/ ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้นทุนของทรัพย์สินได้อย่างไร มีการคำนวณหรือมีแนวทางปฏิบัติทางการบัญชีอย่างไร
(คำถามเดือนมีนาคม 2559)
จากย่อหน้าที่ 6.5 ผลต่างจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดจากการกู้ยืมเงินตราต่างประเทศส่วนที่นำมาปรับปรุงกับต้นทุนของดอกเบี้ย หมายถึงผลต่างอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดจากการกู้ยืมเงินตราต่างประเทศส่วนที่จะนำมารวมเป็นต้นทุนการกู้ยืมได้ จะต้องเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับดอกเบี้ยที่ควรมีอยู่จริงเท่านั้น เช่น
หากการกู้ยืมเงิน 1 ล้านบาท ด้วยเงิน USD มีอัตราดอกเบี้ย 5%
แต่หากบริษัทกู้ยืมเงิน 1 ล้านบาท ด้วยเงิน THB จะมีอัตราดอกเบี้ย 7%
ในกรณีนี้บริษัทสามารถรับรู้ต้นทุนการกู้ยืมจากการกู้ยืมเงิน USD (ทั้งส่วนของดอกเบี้ย 5% และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้น) ได้ไม่เกิน 70,000 บาทตามต้นทุนการกู้ยืมที่ควรมีอยู่ของกิจการ
ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดจากการกู้ยืมเงินตราต่างประเทศส่วนที่รวมกับต้นทุนดอกเบี้ย 5% แล้วเกินกว่า 70,000 บาท ให้รับรู้เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับงวด
ทั้งนี้ขอให้ท่านศึกษารายละเอียดของสัญญากู้ยืมเพิ่มเติมจากบริษัทลูกค้าและปรึกษาฝ่าย technical ของสำนักงาน เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ใช้ประกอบการตัดสินใจรอบด้าน โดยตัวอย่างที่ยกขึ้นมาเป็นเพียงตัวอย่างเพื่อประกอบความเข้าใจเท่านั้น ไม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานการบัญชี และหากมีเนื้อหาที่เปลี่ยนแปลงไป คำตอบดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น