จากการที่ได้ไปเข้าร่วมประชุมผู้ตรวจสอบภายในระหว่างประเทศประจำปี 2019 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มีหัวข้อหนึ่งที่น่าสนใจที่ผู้เขียนอยากนำมาเป็นข้อเตือนใจให้กับผู้สอบบัญชี ทั้งผู้ตรวจสอบภายในและผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ซึ่งต่อไปนี้ขอเรียกรวมว่า ผู้ตรวจสอบ นั่นคือ “ความเสี่ยงในการประเมินความเสี่ยง”
เมื่อกล่าวถึงความเสี่ยง ผู้ตรวจสอบจะนึกถึง ความเสี่ยงสืบเนื่อง ความเสี่ยงจากการตรวจสอบความเสี่ยงจากการควบคุมภายใน การประเมินความเสี่ยง การบริหารจัดการความเสี่ยง การตอบสนองต่อความเสี่ยง และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งผู้ตรวจสอบได้เข้าใจความเสี่ยงอย่างแท้จริงหรือไม่ ได้คำนึงถึงความเสี่ยงในการประเมินความเสี่ยงหรือไม่
ถ้าให้ประเมินความเสี่ยงจากการเดินทางด้วยเครื่องบินกับการเดินทางด้วยรถยนต์ ท่านคิดว่าการเดินทางแบบใดมีความเสี่ยงมากกว่ากัน หลายคนตอบว่าการเดินทางด้วยเครื่องบินปลอดภัยกว่าเพราะเรารับรู้อัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากกว่าจากเครื่องบิน หรือบางคนบอกว่าการเดินทางด้วยเครื่องบินมีความเสี่ยงกว่าเพราะอยู่ในที่สูง ซึ่งตนเองเป็นคนที่กลัวความสูง หรือบางคนบอกว่าการเดินทางด้วยเครื่องบินเสี่ยงกว่าเพราะเราไม่ได้ขับเองเราไม่ได้เป็นผู้ควบคุม ไม่เหมือนการเดินทางด้วยรถยนต์ที่เราขับเอง เราควบคุมการขับของเราได้จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นว่า การประเมินความเสี่ยงขึ้นกับมุมมองของผู้ประเมิน ดังนั้น ผู้ประเมินต่างกันจะประเมินความเสี่ยงที่ไม่เหมือนกัน
ถ้าท่านเห็นตัวเลข 3 5 3 ท่านคิดว่าตัวเลขต่อไปคือตัวเลขอะไร? |
หลายท่านจะตอบว่า 5 ทำไมท่านตอบเลข 5 นั่นเพราะคนเรามักจะมองหาแบบแผน หรือ Pattern ที่ควรเป็น เราจะรู้สึกมั่นคง มั่นใจต่อการมองหาแบบแผนในการคาดเดาตัวเลข หรืออนาคต ซึ่งท่านอาจตกหลุมพรางของแบบแผนที่ท่านเห็น |
แบบที่ 1 การรักษาน่าจะสามารถช่วยชีวิตคนได้ 200 คน จาก 600 คน | หากให้ท่านเลือกระหว่าง แบบที่ 1 และ 2 หลายท่านเลือกแบบที่ 1 เพราะเป็นจำนวนที่ค่อนข้างแน่นอน เห็นเป็นตัวเลขชัดเจนว่าช่วยได้ 200 คน หากให้ท่านเลือกระหว่าง แบบที่ 3 และ 4 หลายท่านเลือกแบบที่ 4 เพราะเป็นจำนวนที่ไม่แน่นอนในเชิงลบ ดีกว่ารู้ชัดเจนในเชิงลบว่าคนตาย 400 คน ทั้งที่ ในข้อเท็จจริงแล้วความหมายของแบบที่ 1 และแบบที่ 3 คือ เท่ากัน แต่ข้อความในเชิงบวก หรือในเชิงลบนั้น ส่งผลต่อความคิด ส่งผลต่อการตัดสินใจของท่าน |
|
แบบที่ 2 การรักษาน่าจะช่วยชีวิตคนไข้ 1 ใน 3 ของคนไข้ทั้งหมด 600 คน | ||
แบบที่ 3 การรักษาแบบที่ 3 น่าจะทำให้คนตาย 400 คน จาก 600 คน | ||
แบบที่ 4 การรักษาน่าจะทำให้คนตาย 2 ใน 3 ของคนไข้ทั้งหมด 600 คน |
Anchoring Fallacy คือ การที่เราตัดสินใจไปตามมาตรฐานหรือเกณฑ์ หรือแนวปฏิบัติที่กำหนดให้โดยไม่ได้คำนึงถึงปัจจัยอื่น ที่อยู่นอกเหนือเกณฑ์นั้น ๆ . . .. . . . |
Availability Bias หรือ Heuristic คือ อคติหรือความลำเอียงจากข้อมูลที่เราเคยรับรู้หรือ ที่เราระลึกได้ง่าย เช่น หากเราเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์สึนามิ เราจะจำเหตุการณ์นั้นได้แม่นยำซึ่งถ้าต่อมาเรา ได้ไปตรวจสอบโรงแรมหรือกิจการที่อยู่ติดทะเล เราอาจประเมินว่าเสี่ยงมากทั้งที่โอกาสที่จะเกิด ไม่สูงเท่าที่เราประเมินจากสิ่งที่เราจดจำได้ |
Hindsight Bias คือ อคติหรือความลำเอียง ที่เราคิดว่าเรารู้เหตุการณ์นั้น ดีก่อนที่เหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้น .. . . .. . . . ... |
Confirmation Bias คือ การที่เรามีอคติหรือเอนเอียงให้น้ำหนัก ต่อข้อมูลที่สนับสนุนหรือสอดคล้องกับความเชื่อ ของตน และละเลยหรือไม่สนใจต่อข้อมูลที่ไม่สอดคล้อง กับความเชื่อของตน . . . |
1. ผู้ตรวจสอบเข้าใจโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยงหรือไม่ ผู้ตรวจสอบควรใช้ข้อมูลสถิติหรือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมากกว่าการใช้การรับรู้หรือทัศนคติส่วนตัว | |
2. ผู้ตรวจสอบควรเป็นกลางในการประเมิน ระวังอคติหรือความลำเอียงในการประเมิน เช่น การให้น้ำหนักต่อข้อมูลที่สนับสนุนความคิดหรือความเชื่อมากเกินไป การอ้างอิงกฎเกณฑ์ แนวปฏิบัติมากเกินไป ความมั่นใจว่าตนเองรู้ทุกอย่างมากเกินไป ระวังการอ้างอิงจากประสบการณ์ส่วนตัวหรือจากข้อมูลที่จดจำง่ายมากเกินไป | |
3. ผู้ตรวจสอบควรระวังกับดักของแบบแผน หรือ Pattern ที่สร้างขึ้นมา | |
4. ผู้ตรวจสอบควรระวังต่อภาษาของข้อมูลที่ได้มา ควรคำนึงถึงข้อเท็จจริงให้มาก |
โดย..ผศ.ดร. จุฑาทิพ อัสสะบำรุงรัตน์ |