จากสถานการณ์โควิด-19 (COVID-19) ที่ทวีความรุนแรงและแพร่กระจายไปทั่วโลก วงการแพทย์ได้ออกมาแนะนำให้ใช้มาตรการป้องกันหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ Social Distance (การรักษาระยะห่าง) โดยให้ทุกคนอยู่บ้านให้มากที่สุด ทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) ผู้เขียนจึงคิดถึงผู้ประกอบวิชาชีพสอบบัญชีว่า ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้ไหม จะสามารถตรวจสอบบัญชีจากที่บ้านของแต่ละคนได้ไหม และจำเป็นไหมที่จะต้องเข้าไปตรวจสอบที่สถานประกอบการของลูกค้า
จากการที่ได้เข้าไปอ่านบทความต่าง1ๆ1บนโลก Online พบบทความหนึ่งที่น่าสนใจที่จะมาเขียนเล่าสู่กันอ่านบทความนี้เขียนโดย Bill Curtis เผยแพร่บนเว็บไซต์ www.accountingtoday.com เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2562 คือปลายปีที่แล้วก่อนที่จะมีข่าว Covid-19 ไม่นาน
บทความนี้ได้กล่าวถึง Remote Audit ว่าทำไมผู้ประกอบวิชาชีพสอบบัญชีและทีมตรวจสอบควรพิจารณาการใช้ Remote Team ในปีหน้า คำว่า “Remote Audit” หมายถึง การตรวจสอบโดยที่ไม่ได้เข้าไปตรวจสอบ ณ สถานประกอบการของลูกค้า แต่สามารถเก็บรวบรวมหลักฐานต่าง1ๆ1อย่างเพียงพอและเหมาะสมต่อการแสดงความเห็นต่อข้อมูลในงบการเงิน ดังนั้น ความเป็นไปได้ของการนำ Remote Audit มาใช้ในการตรวจสอบงบการเงินจึงขึ้นอยู่กับความสามารถในการเข้าถึงเอกสารและหลักฐานการสอบบัญชีหรือไม่ กล่าวคือ หากเอกสารหลักฐานประกอบงบการเงินของกิจการอยู่ในรูปของอิเล็กทรอนิกส์ หรือสามารถสื่อสารและแปลงเอกสารในรูปของกระดาษให้อยู่ในรูปแบบแฟ้มข้อมูลและส่งให้ผู้ปฏิบัติงานตรวจสอบ หรือผู้สอบบัญชีสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลและหลักฐานต่าง ๆ โดยไม่ต้องเข้าไปที่กิจการของลูกค้าได้ การประชุมกับลูกค้าหรือการสัมภาษณ์จะดำเนินการผ่านการประชุมออนไลน์ (Video Conference) เช่น การใช้โปรแกรม Zoom โปรแกรม Window Meeting ฯลฯ การทำ Remote Audit ก็อาจเป็นไปได้ แต่ทั้งนี้ผู้สอบบัญชีต้องสามารถมั่นใจได้ว่า การเข้าถึงแหล่งข้อมูล เอกสารหลักฐานต่าง ๆ เป็นไปอย่างครบถ้วนและถูกต้อง ความเร็วหรือความสามารถในการรับส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตสามารถรองรับได้ และต้องใช้ Data-Analytic เข้ามาเพื่อวิเคราะห์หรือระบุสัญญาณหรือข้อบ่งชี้ของสิ่งผิดปกติ และนำไปวางแผนและดำเนินการตรวจสอบอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
กรณีที่ผู้สอบบัญชีกำลังตัดสินใจใช้ Remote Audit สิ่งที่ผู้สอบบัญชีควรพิจารณาประกอบการตัดสินใจ ได้แก่
1. เอกสารหลักฐานมีความถูกต้อง ครบถ้วน เกี่ยวข้อง และน่าเชื่อถือหรือไม่ มาตรฐานการสอบบัญชี รหัส 500 เรื่อง หลักฐานการสอบบัญชี ได้กำหนดไว้ว่า ผู้สอบบัญชีต้องออกแบบและใช้วิธีการตรวจสอบเพื่อให้ได้มาซึ่งหลักฐานที่เหมาะสมอย่างเพียงพอต่อการแสดงความเห็นของผู้สอบบัญชี ซึ่งจะต้องพิจารณาถึงความเกี่ยวข้องและความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่จะใช้เป็นหลักฐานการสอบบัญชี ทั้งนี้ความน่าเชื่อถือของข้อมูลจะรวมถึงความถูกต้องและความครบถ้วนของข้อมูล | ||
2. โอกาสที่จะถูกคุกคามจาก Cyber หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การทำ Remote Audit จะต้องใช้การรับส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะมีความเสี่ยงของการถูกขโมยข้อมูล หรือข้อมูลของลูกค้าถูกเผยแพร่หรือเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากลูกค้า สิ่งต่าง1ๆ1เหล่านี้เป็นความเสี่ยงของผู้สอบบัญชี1 เพราะจะกระทบต่อความเชื่อมั่นในวิชาชีพสอบบัญชี | ||
3. ความพร้อมของอุปกรณ์ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต การรับส่งข้อมูล รวมถึงการประชุมทางไกล จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงความสามารถในการรับส่งข้อมูลขนาดใหญ่ หากการเชื่อมต่อล้มเหลวหรือไม่มีประสิทธิภาพ จะทำให้ข้อมูลที่จะนำมาเป็นหลักฐานการสอบบัญชีขาดความน่าเชื่อถือ และไม่สามารถนำมาสนับสนุนการแสดงความเห็นของผู้สอบบัญชีได้ | ||
4. ตารางเวลาที่ต้องมีความยืดหยุ่นตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องมีการประชุมทางไกลร่วมกัน เวลาที่สามารถประชุมร่วมกันต้องตรงกัน หากมีคนใดคนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นสมาชิกในทีมตรวจสอบหรือลูกค้าติดประชุมอื่นหรือไม่สะดวก ทุกคนที่เหลือจะต้องเลื่อนการประชุมออกไป สิ่งที่ตามมาคือ การควบคุมระยะเวลาในการตรวจสอบให้เป็นไปตามแผนและตรงตามกำหนดเวลาที่ตกลงกับลูกค้า |